ราล์ฟ รังนิค ผู้ที่เป็นศาสดาจารย์ หรือเป็นศาสตราจารย์ ทางด้านลูกหนัง เป็นผู้ที่เป็นบิดา ผู้คิดค้น เกเก้นเพรสซิ่ง หรือก็คือ การเพรสซิ่งในระดับสูง คือได้บอลแล้วบุกเข้าหาคู่แข่ง อย่างเดียว และเมื่อเสียบอลไป ต้องแย่งบอลกลับคืนมาให้อยู่กับทีมให้ได้ เมื่อได้บอลแล้ว ต้องเป็นฝ่ายบุกในทันที แท็กติกของเขา คือบุกเต็มตัวนั่นเอง และให้ผู้รักษาประตูทำงานหนักให้น้อยที่สุด
ถ้าแมนยูฯ ได้เขามา นักเตะของแมนยูฯ รับรองได้เลย ว่าวิ่งกันตับแลปแน่ เพราะนักเตะแมนยูฯ ชุดนี้ มีศักยาภาพพอ ที่จะเล่นให้เข้ากับระบบของเขาได้ ระบบที่จะนำมาใช้กับทีม คงเป็น 4-2-2-1 นั่นเอง คือใช้แผงแบ็กโฟร์ 4 คน กองกลาง 2 คน ปีก 2 คน กองหน้าคนเดียว หรือจะใช้กองหน้าคู่ก็ได้ สำหรับแผนนี้
แต่การมาของเขา คริสเตีย โน่ น่าจะลำบากแน่ ๆ เพราะอายุเยอะแล้ว วิ่งไล่เพรสซิ่ง ตามระบบของเขา คงจะไม่ไหว หรือรังนิค น่าจะปรับระบบและแท็คติดกเพื่อให้เข้ากับนักเตะเสียก่อน นัดวันอาทิตย์นี้ ที่แมนยูฯ ต้องบุกไปสแตมฟอร์ดบริด เขาไม่น่าจะได้ใบอนุญาต มาทันแน่ ต้องใช้บริการคาร์ริค คุมทัพไปก่อน อาทิตย์ถัดไปที่เจอกับอาร์เซนอล เราน่าจะได้เห็นเขาลงคุมทีมข้างสนามแน่นอน
ปฏิเสธเชลซีเพื่อรอมคุมแมนยูฯ

ช่วงที่สิงโตน้ำเงินคราม ปลดแฟร้งค์ แลมพาร์ด ออกจากตำแหน่ง เชลซี เคยติดต่อไปหา ราล์ฟ รังนิค เพื่อให้มาคุมทีม ตอนนั้นเหลือเวลาแค่ 5 เดือนก็จะจบฤดูกาลแล้ว เขาจึงไม่ได้ตกลงรับคำอะไร เพราะไม่อยากทำทีมใน ระยะเวลาสั้น แต่เป็นแมนยูฯ ที่ติดต่อไป ตอนที่แมนยูเตะไปแล้ว 13 นัด เหลือระยะเวลา ให้เขาคุม และทำทีม วางแท็กติกอีกตั้ง 25 นัด หรือประมาณ 6 เดือน
6 เดือนนี่ไม่น้อยนะ พอจะทำให้แมนยูฯ กลับมามีลุ้นแชมป์ หรือไม่ก็ลุ้นอันดับ 2 ได้เลยทีเดียว และแมนยูฯ ยังเสนอตำแหน่งที่ปรึกษาให้กับเขาอีกด้วย เป็นระยะเวลา 2 ปี เขาตอบตกลงคุมแมนยูฯ ก็เพราะเหตุผลนี้แหละ เขาจะเป็นที่ปรึกษาให้กับ ผู้จัดการใหม่ เป็นระยะเวลา 2 ปี และวางระบบให้กับทีม
ทำไม ราล์ฟ รังนิค จึงตกลงมาคุมแมนยูฯ
เหตุผลก็เพราะว่า เขาอยากลองคุมทีม แมนยูฯ ทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีก อยากลองคุมทีมพรีเมียร์ลีก ประเทศที่เป็นต้นตำรับ ของฟุตบอลดูบ้าง ถ้าแมนยูฯ ตั้งเขาคุมทีมจริง ๆ นักเตะได้เข้าระบบ และด้วยบุคลิกของเขา ไม่ยอมบอร์ดบริหาร และนักเตะที่แข็งข้อ เขาคงไม่ยอมแน่นอน
สามารถกดรับชมได้ที่นี่ >>>>
แหล่งที่มาของรูปภาพ
ข่าวกีฬา ที่น่าสนใจ